วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562

Youth (วัยวุ่นรัก)

 

“มีบางครั้ง…ที่ๆ เราอยากไปที่สุด กลับเป็นที่ๆ เราเดินอ้อมไกลที่สุด

ตอนนี้กำลังชอบดูซีรีส์ไต้หวันเรื่อง “Youth” ในแอพ MONOMAX เรื่องราวของ “ซูหยงซิน” เด็กนักเรียนม.ปลาย หน้าตาธรรมดาคนหนึ่งที่ได้รับมอบหมายจากครูให้ไปตามเพื่อนที่นั่งข้างๆ กลับมาเรียน 

“ตู้หย่าซิว” เขาไม่ค่อยมาโรงเรียน หยงซินเคยได้ยินกิตติศัพท์ความเกเรของเขามามากจนเธอไม่อยากยุ่งด้วย แต่เพราะขัดครูไม่ได้จึงต้องออกไปตามหาเขาจนเจอ

วันนั้นเองที่หยงซินได้คุยกับหย่าซิวจริงๆ แต่เหตุการณ์วุ่นวายในร้านเกมส์ทำให้สมุดบันทึกที่หยงซินเขียนล้อเลียนเพื่อนทุกคนในห้องหล่น…และหย่าซิวเก็บได้ เขาใช้มันเป็นเครื่องมือออกคำสั่งกับหยงซิน ถ้าไม่อยากถูกเปิดเผยกับเพื่อนๆ ว่าเธอเขียนอะไรบ้างลงไปในสมุด

หยงซินแสนจะขัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เธอทั้งรำคาญที่เขาชอบมาใช้และจู้จี้จุกจิก ทำไมคนแบบนี้ถึงได้ป๊อบในกลุ่มเด็กผู้หญิงนะ หยงซินคิด…แค่เพราะหน้าตาดี แต่นิสัยไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ


แม้กระทั่ง “กาวหยี่ส่วน” ดาวโรงเรียนที่ดีพร้อมทุกอย่างทั้งหน้าตาและฐานะทางบ้านก็ยังเข้ามาเป็นเพื่อนกับหยงซินเพราะอยากให้เธอเป็นแม่สื่อให้ หยงซินยอมทำตามเพราะอยากเป็นเพื่อนกับหยี่ส่วนจริงๆ

คิดไม่ถึงว่าเมื่อหย่าซิวไม่เล่นด้วย หยี่ส่วนจะโกรธจนถึงขนาดแกล้งเธอ…


นี่เป็นซีรีส์ฉบับนักเรียนโดยแท้ เนื้อเรื่องพูดถึงมิตรภาพและความรักในวัยเด็กที่แสนซื่อ เรียบง่ายธรรมดา แต่ดูแล้วกลับคิดถึงความรักอย่างจริงใจในวันที่ทุกอย่างสดใสและมีความหวัง

ในวัยเด็ก…ปัญหาที่พบเจอช่างดูยิ่งใหญ่

แต่พอเวลาผ่านไป ผู้ใหญ่คนหนึ่งจะคิดถึงวันนั้นแล้วบอกกับตัวเองว่า…นั่นมันสบายที่สุดแล้ว 

เพราะต่อให้ปัญหาหนักแค่ไหน เราก็ยังมีแรง มีกำลัง มีความหวังให้ก้าวต่อไป ถ้าใครค้นหาตัวเองเจอและยอมลำบากตั้งแต่วันนั้น อนาคตข้างหน้ามองกลับมาเขาจะไม่เสียใจ

เพราะในทางเดินชีวิต…ที่ๆ เราอยากไปมากที่สุด อาจจะเป็นที่ๆ เราเดินอ้อมไกลมากที่สุด…ถ้าหากเราไม่ตั้งใจ



#Youth #วัยวุ่นรัก #น่ารักมากอยากให้ดู #Monomax

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562

3 nen A gumi


วันนี้ขอเล่าถึงซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่อง “3-nen-A-gumi” หรือชื่อไทยว่า “ปี3 ห้อง A ตั้งแต่ตอนนี้ทุกคนคือตัวประกัน” เรื่องนี้มีลูกเพจสาวน้อยน่ารักแนะนำมาให้ เปิดดูแล้วคิดในใจว่า…ทำไมมันดาร์คอย่างนี้ แต่พอดูแล้วกลับสนุกขึ้นเรื่อยๆ และเห็นอะไรบางอย่างที่คิดไม่ถึง

เรื่องราวในซีรีส์เล่าถึงคุณครูหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่า “ฮิรากิ” เขามีบุคลิกขี้กลัว ไม่สู้คน เป็นครูที่ถูกนักเรียนเกเรกลั่นแกล้ง แต่ก่อนจะถึงวันจบการศึกษา 10 วัน คุณครูฮิรากิก็เปลี่ยนไปเป็นอีกคน เขาจับเด็กนักเรียน 29 คน ในห้องที่ตัวเองสอนไว้เป็นตัวประกัน เพื่อให้เด็กเหล่านั้นตอบคำถามว่า…ทำไม “เรนะ” ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาถึงฆ่าตัวตาย ถ้าตอบไม่ได้ทุกคนจะไม่รอดออกไปภายใน 10 วันนี้



1 คำถาม 1 คำตอบ ภายในเวลา 1 วัน เมื่อนักเรียนตอบคำถามหนึ่งได้ คำตอบก็เชื่อมโยงไปหาคำถามถัดไปว่า “ทำไมถึงทำอย่างนั้น” “ใครเป็นคนทำ” และ “ทำแบบนั้นทำไม”

“ทำแบบนั้นทำไม” ในเมื่อเรนะเป็นเด็กสาวน่ารักมากคนหนึ่ง เธอเล่นกีฬาเก่ง เป็นนักกีฬาว่ายน้ำระดับประเทศ ความดังของเธอทำให้ทุกคนรู้จักในฐานะดาวโรงเรียน

ทำไมถึงมีคลิปแอบถ่ายของเธอออกมา และคนปล่อยคลิปต้องการอะไร

เรื่องราวค่อยๆ เปิดเผย ในขณะที่สื่อรายงานข่าวไม่ซ้ำกันเลยว่าใครผิด แต่ทุกวันกระแสในโลกโซเชียลจะมีคนออกมาแสดงความคิดเห็นมากมาย ทั้งประณามและโจมตีคนที่สื่อคาดการณ์ว่าทำผิด

น่าคิดตรงที่…เมื่อเปลี่ยนคนผิด เป้าหมายการโจมตีก็เปลี่ยนไป

เรามีสิทธิ์พิพากษาคนอื่นด้วยคำพูดตั้งแต่เมื่อไหร่หนอ หรือตั้งแต่ที่เราไม่ต้องพูดกับเขาต่อหน้าแต่เปลี่ยนมาเป็นการพิมพ์ลงไปแทน

ในเมื่อกล้าทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ…ลงโทษด้วยนิ้วของเราที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้คนที่ถูกทำร้าย 

…เพื่อให้สังคมดีขึ้น 

…หรือเพื่อแสดงความคิดเห็นว่าเรารู้จักผิดชอบชั่วดีกว่าคนอื่น 


…หรือแค่สนุก…ที่ได้พิมพ์


น่าแปลกที่การช่วยคนในโลกออนไลน์มีมากมายกว่าในชีวิตจริง
ช่วย…โดยที่เราเองก็ไม่รู้ว่ามันจริงแค่ไหน แค่เราได้รับข่าวมา…ว่ามันใช่ ว่ามันจริง

อินเทอร์เน็ตได้เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารทุกอย่างเข้าหากันด้วยความรวดเร็ว คำพูดปากต่อปากถูกส่งต่อและในที่สุดมันก็ถึงผู้รับและบาดลึกลงไปในจิตใจของคนๆ นั้น

ในขณะที่เรากรีดใจคนอื่นด้วยคำพูด คนที่อ่านเจ็บปวดและอับอายจากมือที่มองไม่เห็น 

เขาต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวง พลังของโซเชียลเน็ตเวิร์กไม่ใช่แค่การเชื่อมคนเข้าหากัน แต่มันสามารถแยกคนออกจากสังคมที่เขาเคยอยู่ได้ด้วย

น่าเศร้าที่บาดแผลไม่มีร่องรอย…เพื่อจะได้เป็นสิ่งยืนยันว่าเขาเจ็บปวดจริงๆ กับทุกคำที่เราพิมพ์ลงไป


——————————

ข่าวสารในโลกออนไลน์ที่เราร่วมแสดงความคิดเห็น แชร์ เรามีข้อมูลที่ถูกต้องอยู่ในมือกี่เปอร์เซ็นต์

อะไรคือความจริง เราคัดกรองสิ่งเหล่านั้นได้ “ถูกต้อง” มากน้อยแค่ไหน

คนที่ทำผิดควรต้องได้รับโทษ แต่ถ้าเราเป็นเขา เป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เป็นคนในครอบครัวของเขา เราจะรู้สึกอย่างไร ถ้าเป็นเราบ้างที่ถูกกระทำ

เรามีสิทธิ์จริงๆ ใช่ไหม ที่จะพิพากษาเหตุการณ์ในชีวิตของคนอื่นด้วยคำพูดที่ออกมาจากปลายนิ้วของเราทั้งที่ยังไม่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขามาก่อน

เป็นซีรีส์ดีที่อยากแนะนำ…เพราะมีข้อคิดดีๆ ที่เล่าไม่ได้ทั้งหมด ^^



#ขอบคุณซับไทยจากเพจ Daisuki JDrama 
#Let's think
#3 nen a gumi 
#สนามอ่านเล่น

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2562

เจาเหยา...ใครว่าโลกนี้ไม่มีผี (2)



“ถ้าหาก…”

ครั้งก่อนเล่าถึงหนังสือ “เจาเหยา...ใครว่าโลกนี้ไม่มีผี” ว่าสนุกมากแค่ไหนแล้ว วันนี้ขอพูดถึงเวอร์ชั่นซีรีส์ของเรื่องนี้กันบ้าง 

ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกท่านที่แนะนำให้ดูนะคะ ...สารภาพมาซะดีๆ ว่าที่ติดตามกันอยู่ทุกวันนี้เพราะพระเอก ^^

เนื้อหาในซีรีส์และหนังสือไม่แตกต่างกันมากเลย โดยเฉพาะความสนุกและบุคลิกของพระเอก “ม่อชิง” ชายหนุ่มที่เจาเหยาเคยช่วยชีวิตไว้ เขาเป็นคนเงียบขรึม เก็บตัวและไม่ค่อยพูดจากับใคร อาจเพราะมีปมเรื่องบาดแผลบนใบหน้า จึงทำให้ม่อชิงรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น


ส่วนเจาเหยาเป็นคนสบายๆ ช่วยใครแล้วไม่คิดมาก เธอมีฐานะเป็นผู้มีพระคุณของม่อชิง ทั้งเคยช่วยชีวิต ให้อาจารย์ ให้ที่อยู่อาศัย และท้ายที่สุดยังให้กำลังใจเมื่อเห็นเขาสะเทือนใจเรื่องรอยแผลเป็นที่หน้า

แม้ปากของเจาเหยาจะเรียกม่อชิงว่า “เจ้าอัปลักษณ์” แต่ก็เป็นเธอเช่นกันที่ชมเขาอย่างจริงใจว่า “ดวงตาของเจ้า...สวยเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า”


นับแต่นั้นมาสายตาของม่อชิงก็ไม่เคยมีไว้สำหรับมองใครอีก เขารักผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นคือเจาเหยา แต่ถึงจะรักอย่างไรม่อชิงก็เจียมตัวว่าเขาไม่คู่ควรกับเธอทั้งหน้าตาและฐานะ

เขาเฝ้ามองเจาเหยาอยู่เงียบๆ การได้เห็นเธอบ้างเป็นครั้งคราวก็เพียงพอแล้วสำหรับคนอย่างเขา


ถ้าไม่มีเหตุการณ์ที่พรากชีวิตเจาเหยาไป ให้อย่างไรม่อชิงก็ไม่มีทางอยู่ในชีวิตเธอ ดังนั้นเมื่อเขามีโอกาสอีกครั้ง...ม่อชิงยอมทำทุกอย่าง

ไม่มีเหตุผล...เมื่อคนหนึ่งคนยอมทำเพื่อความรัก

แต่ความรักมักจะมีเหตุผลและมีที่มาที่ไปเสมอ ...ไม่ว่าเราจะมองเห็นมันหรือไม่ก็ตาม

ถ้าเจาเหยาไม่ได้เห็นในสิ่งที่ม่อชิงทุ่มเททำเพื่อเธอ ไม่ได้เห็นถึงความจริงใจที่เขามีให้ เธอคงไม่เปิดใจรับเขาเข้ามาในชีวิต

และถ้าหากม่อชิงไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากเจาเหยามาก่อน เธอก็คงไม่มีความสำคัญอะไรในชีวิตของเขาเช่นกัน

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ…ถ้าหากเจาเหยาไม่ตาย
ถ้าหากม่อชิงไม่ได้ขึ้นเป็นเจ้าสำนัก
ถ้าหาก...


ถ้าหากเราไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ “คู่ควร” กับบางสิ่ง เราจะพลาดบางอย่างที่เรา “ควรได้เป็น” ในชีวิตเสมอ 


#ขอบคุณซับดีๆจากAei186SUbTH  
#เจาเหยาใครว่าโลกนี้ไม่มีผี 
#หนังสือดีซีรีส์งาม 
#สนามอ่านเล่น

เจาเหยา…ใครว่าโลกนี้ไม่มีผี (1)


เมื่อคืนอ่านคอมเมนท์หลายๆ ท่านในเพจว่ากำลังดูเจาเหยาแล้วสงสัยมากว่าสนุกยังไงนะ แต่ถ้าดูซีรีส์คงใช้เวลาหลายคืน เลยเข้า Meb โหลดมาอ่านก่อน ตอนแรกคิดว่าจะอ่านคร่าวๆ พอให้รู้เรื่อง แต่กลายเป็นว่าสนุกจนเลื่อนผ่านไม่ลง

ถ้าตงกงเศร้าจับจิต เจาเหยาก็ฮาจับใจ เป็นนิยายที่เล่าเรื่องผ่านสายตาของนางเอก ที่อ่านแล้วต้องร้อง “ฮะ” อยู่ในใจหลายครั้ง
ฮะ…คิดอะไรแบบนี้ได้ด้วยเหรอ ฮะ…ทำไมถึงทำแบบนี้ โอ้ย…เอาปี๊บมา เอาปี๊บมาให้คลุมหัวเดี๋ยวนี้ อ่านแล้วก็อายแทนแต่ก็หัวเราะออกมา…


“ลู่เจาเหยา” เธอเป็นจอมมารที่มีชื่อเสียงเลื่องลือทั้งฝีมือและความงาม แต่น่าเสียดายที่เจาเหยาอายุสั้น การตายของเธอกระทันหันจนตัวเองยังตกใจ ที่น่าสงสารกว่าคือเวลาล่วงเลยมาห้าปีจนหญ้าที่หลุมศพท่วมสูงถึงเอวแล้ว แต่เจาเหยาก็ยังไม่ได้ไปไหน…ติดแหงกอยู่ที่หลุมศพแห่งนั้น

อาจเพราะตอนมีชีวิตอยู่เธอฆ่าคนมามาก เมื่อตายไปแล้วจึงไม่ค่อยมีใครคิดถึง การเป็นวิญญาณที่โดดเดี่ยวทำให้เจาเหยาสงสารตัวเองแล้วพาลแค้นคนที่ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพนี้

คนๆ นั้นคือ “ม่อชิง” เขามีฐานะเป็นเพียงคนเฝ้าประตูสำนัก มีสิทธิ์อะไรมาทำให้เธอตายและชุบมือเปิบเอาทุกสิ่งทุกอย่างไป

 

ทั้งๆ ที่เจาเหยาเคยช่วยชีวิตเขาไว้ ถึงม่ออี้จะอัปลักษณ์กว่าคนอื่นเธอก็ไม่เคยรังเกียจ ยังเคยชมเขาด้วยซ้ำว่า “ดวงตาของเจ้า…สวยเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า” เธอดีกับเขาขนาดนี้คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะฆ่าเธอลง


เจาเหยาเป็นนางเอกสายฮาและชอบมโนอย่างแท้จริง เธอคิดเองเออเองและดูไม่ออกเลยว่าใครกันที่รักเธอมากที่สุด 

เมื่อวันหนึ่งเจาเหยามีโอกาสจะได้แก้แค้น…เธอไม่รอช้า การได้กลับไปอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เธอคิดว่าเขาทำร้าย กลับทำให้วิญญาณเจาเหยามองเห็นอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่

———————

อาจเพราะคนเรามักจะมองเห็นแต่สิ่งที่ตัวเองมองหาเท่านั้น หลายคนจึงพลาดโอกาสบางอย่างในชีวิตไปเพียงเพราะ “ไม่ได้มอง”

ถ้ามองโลกและทำความเข้าใจคนอื่นดีๆ สักครั้ง เราอาจจะรู้ว่า…สุดท้ายแล้วทุกคนที่เราได้เจอล้วนต้องจากเราไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง เพียงแต่ในวันนั้นเราจะอยู่อย่างไรให้ตัวเองไม่เสียใจ…ในสิ่งที่เราทำ และไม่เสียดาย…ในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ

 
#ดวงตาของเจ้าสวยเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า  
#เจาเหยาใครว่าโลกนี้ไม่มีผี 
#หนังสือดีซีรีส์งาม 
#สนามอ่านเล่น

ตงกง…ตำหนักบูรพา



“หากลืมตลอดไปได้เหมือนเจ้า…คงดีไม่น้อย”

“ตงกง…ตำหนักบูรพา” เป็นซีรีส์จีนที่กำลังติดตามอยู่ตอนนี้ เคยเห็นผ่านตาว่ามีหนังสือเรื่องนี้ เลยไปหามาอ่านบ้าง ปรากฎว่างานดี ผู้แปลแปลได้สนุกและน่าอ่าน หนังสือมี 2 เล่ม แต่มีเพียง 4 บท เลยไม่รู้สึกว่ายาวอะไร


ในหนังสือผู้เขียนเล่าเรื่องผ่านสายตาของนางเอก ส่วนในซีรีส์เราจะเห็นการเล่าเรื่องผ่านตัวละครทุกตัว เคยได้ยินมาว่าเรื่องเดียวกันหนึ่งเรื่อง…ถ้ามีสองคนในเหตุการณ์ ฝั่งไหนที่เป็นคนเล่า…เรื่องราวของอีกฝั่งมักจะ “ดาร์ค” กว่าเสมอ

ในนิยายก็เช่นเดียวกัน เมื่อนางเอกเป็นคนเล่าจากมุมมองของเธอ พระเอกของเราจึงมีแคปชั่นเพียงสั้นๆ ไม่ต้องอธิบายเยอะว่า “เลวเหลือทน”

“กู้เสี่ยวอู่” ชายหนุ่มรูปงามจากแคว้นจงหยวนเป็นรักแรกของ “เสี่ยวเฟิง” องค์หญิงเก้าแห่งแคว้นซีเหลียง เธอสดใส บริสุทธิ์ ตรงไปตรงมา เหมือนกระบองเพชรต้นเล็กๆ ที่สามารถออกดอกได้แม้จะอยู่กลางแสงแดดจ้า


ทั้งคู่รักกันมาก แต่แล้ววันหนึ่งเสี่ยวเฟิงก็ได้รู้ความจริงว่าผู้ชายที่เธอตกลงแต่งงานด้วยนั้นเป็นไส้ศึก เขาคือ “หลี่เฉิงอิ๋น” องค์ชายห้าจากแคว้นจงหยวนที่ปลอมตัวมา เขาเป็นคนฉลาด วางแผนการทุกอย่างไว้อย่างแนบเนียน กว่าจะรู้ทั้งแผ่นดินของเธอก็เต็มไปด้วยเลือด 

เสี่ยวเฟิงสูญเสียคนที่รัก เจ็บจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ ไม่อยากจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยมีเขาในชีวิต



ในแคว้นซีเหลียงมีตำนานเล่าขาน…มีแม่น้ำสายหนึ่งชื่อว่า “ธาราลืมเลือน” หากใครกระโดดลงไปจะลืมเรื่องราวทุกข์โศกที่เคยมีจนหมดสิ้น

เสี่ยวเฟิงกระโดดลงไปในแม่น้ำสายนั้น พอกันที…เธออยากให้ความทรงจำที่เคยมีเขาสิ้นสุดลง

แต่ใครจะคิด คนที่ทรยศและหลอกลวงเธอคนนั้น…จะกระโดดตามเธอลงมา

หรือเราควรเรียกมันว่าพรหมลิขิต เมื่อเรื่องราวที่ควรจะสิ้นสุดกลับเริ่มต้นใหม่…กับคนๆเดิม 

————— 

ในความรัก ความทรงจำกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดที่สุดเมื่อความสัมพันธ์จบลง

เมื่อถึงเวลานั้น บางที…การลืมมันไปอาจเป็นสิ่งที่เราร้องขออยากได้มากที่สุด

ขอเพียงอย่าให้เราจดจำกันได้อีก…ว่าตอนที่เคยอยู่ด้วยกันมันทุกข์ทรมานมากแค่ไหน 

#ตงกง  
#ตำหนักบูรพา
#ซีรีส์ดีหนังสืองาม  
#สนามอ่านเล่น

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562

Dear Ex


“การกระทำคือเสียงดังที่สุดของคำว่า…รัก”
 
ได้ดูหนังเรื่อง “Dear Ex” เมื่อวานนี้เพราะมีลูกเพจท่านหนึ่งช่วยแนะนำให้ ตอนแรกก็คิดว่าจะลองดูหนังตัวอย่างก่อน แต่กลายเป็นว่าพอดูแล้วก็อยากดูขึ้นมาจริงๆ เลยนั่งดูจนจบและน้ำตาไหลออกมาซะอย่างนั้น

คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าแต่งงานกับชายคนหนึ่ง อยู่กันมาจนมีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจ แต่อยู่ๆ วันหนึ่งสามีของคุณกลับหมางเมินไป และบอกว่าขอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้ชายอีกคน

“หลิวซานเหลียง” คือผู้หญิงคนนั้น เธอเจ็บปวดและอับอายเมื่อถูกทอดทิ้ง มีความรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกจากคนที่เคยไว้ใจที่สุด มิหนำซ้ำเมื่อเขาจากโลกนี้ไป แทนที่จะยกเงินประกันให้ลูก เขากลับแก้ชื่อผู้รับผลประโยชน์ให้ชายชู้ทั้งหมด



หนังเล่าเรื่องราวย้อนกลับสลับไปมา แต่สิ่งที่ดำเนินไปเป็นปกติคือความจู้จี้ขี้บ่นของซานเหลียงที่กดดันจนลูกชายหนีออกจากบ้าน…ไปอยู่กับใครไม่อยู่ เขาเลือกไปอยู่กับ “อาเจี๋ย” ผู้ชายที่แย่งสามีของเธอ
ซานเหลียงรักลูกเหมือนแก้วตาดวงใจ เรื่องนี้ทำให้เธอบุกไปหาอาเจี๋ย บอกให้เขาคืนสิทธิ์ในเงินประกันให้ ถ้าไม่อย่างนั้นเธอจะบอกให้แม่ของเขารู้ความจริงเรื่อง “เพศ” ที่เขาปิดบังไว้


“รู้ไหมว่าหมื่นปียาวนานแค่ไหน…มันคือตั้งแต่วันที่เขาไม่อยู่ นับจากนั้นทุกๆ วันมันนานเหมือนหมื่นปี” อาเจี๋ยพูดถึงความรู้สึกของตัวเองในวันที่ถูกทิ้งเพราะคนรักของเขาอยากกลับไปใช้ชีวิตปกติเหมือนผู้ชายทั่วไป นั่นคือการแต่งงานและมีครอบครัวเป็นของตัวเอง

เพศที่สามก็คน มีสิทธิ์ที่จะรักหรือถูกรัก แต่สังคมภายนอกกลับมองว่าพวกเขาแตกต่าง สายตาจากคนอื่นไม่กดดันเท่าสายตาคนที่รักเขาอย่างพ่อแม่และคนในบ้าน แม้จะอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองมากแค่ไหนแต่ก็กลัวว่าคนรอบข้างจะผิดหวังและเสียใจในสิ่งที่เขาเป็น
นั่นทำให้บางคนเลือกที่จะปิดบังความจริงไว้ เพราะไม่ใช่แค่เขา…แต่หมายถึงคนในครอบครัวที่ไม่ต้องตอบคำถามจากสายตาและคำพูดของคนอื่น



อาเจี๋ยไม่เคยแย่งผู้ชายของใคร…เขามาก่อน แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่เลือกเขา การปล่อยมือและยอมรับคือสิ่งที่อาเจี๋ยทำ

Dear Ex ทำให้เห็น “รูปธรรม” ของหลากหลายความรัก


อย่าพูดว่ารักเลยถ้าจะรักแค่ลมปาก การกระทำคือเครื่องหมายของคำว่ารัก

รักของอาเจี๋ย…ที่ให้อภัยเมื่อคนที่ทิ้งเขาไปกลับมาขอคืนดี อาเจี๋ยยอมกู้หนี้นอกระบบเพื่อเป็นค่ารักษาตัวให้คนที่เขารัก และช่วยดูแลลูกชายให้ในวันที่คนๆ นั้นไม่อยู่

รักของพ่อ…ที่ยอมให้ลูกเข้าใจผิดคิดว่าพ่อทิ้งเขา เพราะหวังว่าความเกลียดชังจะช่วยบรรเทาความทุกข์ของลูกให้เบาบางขึ้น ถ้าหากไม่ต้องคิดถึงกันด้วยความรักอีก

รักของแม่…ที่ยอมรับและเข้าใจลูกเสมอ ในวันที่แม่ของอาเจี๋ยรู้ความจริง เธอก็ยังรักเขาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป 

ความเข้าใจและความรักช่วยพาทุกอย่างกลับสู่วงจรปกติ การที่ใครสักคนจะชอบเพศเดียวกันไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ ความรักที่เกิดขึ้นหากมัน “จริง” ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ล้วนสวยงามและน่าชื่นชมยินดีด้วย

ซานเหลียงเข้าใจแล้วว่าที่ผ่านมาเธอยังไม่ได้ “บอกรัก” แม้เธอจะทำทุกอย่างให้ลูกและสามีด้วยความทุ่มเท แต่ความรักไม่ได้หมายถึงการที่เขาต้องมีชีวิตอยู่ในรูปแบบที่เธอต้องการ 

เพราะรักคือการให้โอกาสเขาได้โบยบินอย่างที่ฝัน โดยที่เรานั้นเป็นคนยื่นปีกให้ ขอเพียงให้เขามีความสุข…แม้จะไม่มีเราอยู่ในนั้น



#Dear Ex
#รักเก่าใครมาก่อน
#ดีมากอยากให้ดู
#สนามอ่านเล่น

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562

To all the boys I’ve loved before



“แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก”

เป็นชื่อหนังและชื่อหนังสือ best seller ของ New York Times เล่มหนึ่ง (To all the boys I’ve loved before) แค่ชื่อก็น่ารักแล้ว ยิ่งพอมาดูเนื้อเรื่องยิ่งน่ารักไปกันใหญ่ เรื่องราวของสาวน้อยวัยใส “ลาร่า จีน” ที่เคยแอบชอบผู้ชายมาแล้วถึง 5 คน แต่ลาร่าไม่เคยเลยสักครั้งที่จะกล้าบอกความในใจออกมาตรงๆ เธอได้แต่เขียนจดหมายถึงผู้ชายทั้งห้า จ่าหน้าซองถึงพวกเขา และเก็บไว้ในตู้

จดหมายที่ไม่เคยถูกส่ง แทนความรักที่ไม่เคยได้บอก…

วันหนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจดหมายทั้งห้าฉบับของลาร่าถูกส่งออกไปหาผู้รับทั้งหมดโดยที่เธอไม่รู้เรื่อง ลาร่าอายแทบแทรกแผ่นดินหนีเมื่อชายหนุ่มเหล่านั้นเข้ามาถามความรู้สึกจริงๆ ของเธอ



เป็นหนังน่ารักที่ทำให้อมยิ้ม เอาจริงๆ ความรักในวัยรุ่นเป็นโอกาสที่เราจะได้เรียนรู้ความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ๆ ให้ใจเต้นตึกตัก ต้องเคยบ้างล่ะที่เวลาแอบชอบใครแล้วเราต้องคอยแอบมองเขาตรงซอกตึกซอกตู้ไปตามเรื่อง 

ใครที่เคยทำอะไรแบบนั้นคงพอจำได้ว่ามันทำให้ยิ้มได้แค่ไหน เพราะเป็นช่วงอายุที่เรายังมีโอกาสลุกขึ้นมาใหม่และเจ็บได้อีกหลายครั้ง เพียงแต่ความรักในวัยนั้นเราต้องดูแลตัวเองให้เป็น ไม่ปล่อยให้ความรักเข้ามามีบทบาทมากกว่าหน้าที่ที่เราต้องทำ

รักใครก็รักไป เพียงแต่สุดท้ายสิ่งที่เราต้องรักมากที่สุด…ต้องเป็นอนาคตของตัวเราเอง

#feel good
#To all the boy I’ve loved before
#แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก
#ดูได้ที่ Netflix

วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2562

กรงกรรม


"เวลาโกรธอย่าไปด่าเขา เพราะเมื่อเวลาผ่านไป..ความโกรธหาย แต่สิ่งที่ด่าเขา..ไม่หาย"

เป็นคำพูดของ “อาซา” ตัวละครหนึ่งในเรื่อง “กรงกรรม” ที่เพิ่งดูไปเมื่อคืนนี้ คำพูดของอาซาทำให้คิดถึง “นางย้อย” แม่ของเขาที่ปากจัดแต่รักลูกทุกคนมาก

นางย้อยฝากความหวังในการดูแลวงศ์ตระกูลไว้กับ "อาใช้" ลูกชายคนโต แต่วันหนึ่งลูกที่เธอรักมากที่สุดกลับพาผู้หญิงที่มีอดีตทำงานขายบริการอย่าง "เรณู" เข้ามาในบ้าน เรื่องนี้ทำให้เธอโกรธจัด ทั้งผิดหวังและเสียใจในสิ่งที่อาใช้ทำ

เรณูบอกชายคนรักว่าท้องเพื่อให้เขาพาเธอมาหาพ่อแม่ เหตุผลนี้ยิ่งทำให้นางย้อยเกลียดชังเรณู แม้จะพยายามขับไล่และด่าทอทั้งต่อหน้าและลับหลังอย่างไรเรณูก็ไม่ยอมไปไหน เธออดทนสู้ เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าสักวันหนึ่งจะทำให้นางย้อยยอมรับ


แม้จะเคยทำอาชีพที่สังคมเบือนหน้าหนี แต่ตัวเรณูเป็นคนขยันและตั้งใจทำงาน เมื่อรักอาใช้แล้วเธอก็พยายามช่วยเขาทำมาหากินทุกอย่าง ถึงจะมีความลับที่ปิดบังไว้แต่เรณูก็รักเขาอย่างจริงใจ


อดีตของเรณูนั้นน่าสงสาร เธอเป็นลูกแม่ค้าขายขนมที่คอยช่วยแม่ทำงาน แต่เพราะถูกพี่เขยขืนใจจนตั้งท้องทำให้ผิดใจกับพี่สาว ตัวเธอต้องระเห็จออกจากบ้าน สุดท้ายอาชีพขายบริการกลายเป็นทางรอดที่ต้องทำ

เคราะห์กรรมที่ไม่ได้เป็นคนก่อ เรณูเป็นเพียงเหยื่อใน "กรงกรรม" ที่อยากจะหลุดพ้นจากกรงนี้ เพื่อจะได้มีชีวิตที่ดีเหมือนคนอื่นบ้าง

ทุกครั้งที่ถูกนางย้อยด่าประจานอย่างสาดเสียเทเสีย เรณูเชิดหน้าสู้ ฝืนยิ้มอดทน แต่เมื่ออยู่คนเดียวความรู้สึกท้อแท้และหดหู่ก็เข้ามาในใจ


ทุกคนบนโลกใบนี้ไม่มีใครเป็นสีขาวหรือสีดำชัดเจน เราล้วนเคยผ่านเหตุการณ์บางอย่างที่บังคับให้เรากลายเป็น "สี" ที่เราไม่ชอบ และเราอาจเคยสร้างรอยแผลไว้ในใจของใครบางคน

การที่นางย้อยตั้งแง่รังเกียจเรณูนั้นเป็นสิ่งที่คนดูเข้าใจ หัวอกพ่อแม่ย่อมอยากให้ลูกได้คู่ครองที่ดี แต่คำพูดบางคำสามารถสร้างรอยแผลในใจได้อย่างที่เราคาดไม่ถึง

ไม่มีใครรู้อนาคต บางทีคนที่เรารังเกียจเดียดฉันท์เขามากเหลือเกินในวันนี้ อาจเป็นคนที่กลับมาช่วยเหลือเราอย่างมากในวันข้างหน้า

แต่คำพูดเมื่อออกจากปากไปแล้วไม่หวนคืน เหมือนความรู้สึกดีๆ ที่สร้างขึ้นมาใหม่ไม่ได้ง่ายๆ

และถ้าเขาไม่ได้เป็นคนแบบที่เราคิด มันจะน่าเศร้าแค่ไหนที่ต้องมาเจอคำพูดทำร้ายจิตใจของเราแบบนั้น


#ดูต่อไม่รอแล้วนะ
#แสดงดีทุกคนเลย
#กรงกรรม