วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ขุนช้างขุนแผน #นางวันทอง

“หากถูกตราหน้าว่าสองใจ…” 

วันมาฆบูชาที่ผ่านมาได้ไปไหว้พระที่วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี เดินดูงานจิตรกรรมฝาผนังรอบๆ วัดแล้วสะดุดตากับภาพวาดเล่าเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” ตอนที่นางวันทองโดนประหารชีวิต อ่านไปเรื่อยๆ แล้วคิดถึงตอนเด็กๆ ที่เคยเรียนเรื่องนี้

 

"ขุนช้างขุนแผน" เป็นกลอนเสภาที่ถูกแต่งและเรียบเรียงโดยกวีเอกหลายท่านในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี เรื่องราวเล่าถึงการแย่งชิงความรักในสังคมไทยยุคที่ผู้ชายมีอำนาจเหนือผู้หญิง ผ่านสองตัวละครเอกเจ้าของชื่อเรื่อง "ขุนช้าง" และ "ขุนแผน"

ขุนช้างเป็นลูกของขุนศรีวิชัยและนางเทพทอง เศรษฐีใหญ่เมืองสุพรรณบุรี เขามีหน้าตาอัปลักษณ์มาตั้งแต่เกิด จนแม้แต่แม่ผู้ให้กำเนิดเห็นหน้าครั้งแรกยังตกใจ

ผิดกับขุนแผนลูกของขุนไกรพลพ่ายและนางทองประศรี เขามีชื่อจริงที่พ่อแม่ตั้งให้ว่า "พลายแก้ว" ในตอนที่ตั้งท้องนั้นนางทองประศรีฝันว่ามีคนเอาแหวนเพชรเม็ดงามมาให้ เมื่อเติบโตขึ้นลูกคนนี้กลายเป็นชายหนุ่มรูปงามและเก่งกล้าในเชิงรบ

ผู้ชายสองคนที่ลักษณะแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวกลับหลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน เธอคือ “นางพิมพิลาไลย” ลูกสาวของนางศรีประจัน ความสวยของเธอได้ชักนำพวกเขาเข้ามาในชีวิต

ขุนแผน เขาคือความรักครั้งแรกและเป็นสามีที่นางพิมแต่งงานด้วยอย่างถูกต้องตามประเพณี ขุนแผนเป็นคนเจ้าชู้ ก่อนจะแต่งงานอยู่กินกันเขาเคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงมาแล้วหลายคน แต่ขุนแผนรักนางพิมมากที่สุด ถึงขนาดเคยออกปากกับแม่ว่านอกจากนางพิมแล้วเขาจะไม่แต่งงานกับใคร

เหมือนจะเป็นผู้หญิงที่โชคดี แต่สามีที่นางพิมหวังจะครองคู่อยู่ด้วยทั้งชีวิตคนนี้กลับได้รับคำสั่งให้ออกไปรบ เขาหายไปนานจนเธอไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร นางพิมทุกข์ใจมากจนล้มป่วย รักษาอย่างไรก็ไม่หายจนขรัวตาจูที่วัดแนะนำให้เปลี่ยนชื่อเป็น “วันทอง” อาการจึงดีขึ้น

ชื่อที่เปลี่ยนนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในเวลาต่อมา ใช้เรียกในเชิงลบว่าเป็น “นางวันทองสองใจ” เปรียบเปรยถึงผู้หญิงหลายใจที่รักผู้ชายสองคน

เพราะมีขุนช้างก้าวเข้ามาเป็นผู้ชายคนที่สองในชีวิต ในอดีตเขาเคยเข้ามาติดพันและแสดงออกว่าชอบเธอ แต่สองตานางวันทองไม่เคยแลเขา มาครั้งนี้เมื่อขุนแผนไม่อยู่ ขุนช้างจึงฉวยโอกาสแต่งเรื่องหลอกนางศรีประจันว่าขุนแผนตายแล้วในสนามรบ หากไม่อยากให้นางวันทองเป็น “ม่ายหลวง” ที่ต้องถูกริบตัว ริบเรือนเข้าวัง ก็ต้องให้นางวันทองแต่งงานกับเขา

นางศรีประจันหลงเชื่อบังคับให้ลูกสาวแต่งงานกับขุนช้าง แม้นางวันทองจะไม่เชื่อว่าขุนแผนตายแล้วจริงๆ แต่เธอก็ขัดแม่ไม่ได้ ทำได้เพียงรักษาตัวไม่ยอมมีความสัมพันธ์ฉันผัวเมียกับขุนช้าง เฝ้ารอขุนแผนกลับมา…

ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในที่สุดขุนแผนก็กลับมาจริงๆ พร้อมชัยชนะ… และเมียพระราชทานคนใหม่ชื่อว่า “นางลาวทอง”

นางวันทองเห็นดังนั้นก็แค้นใจมาก พลั้งปากด่าว่าขุนแผนและนางลาวทองอย่างเจ็บแสบ ตัวขุนแผนกลับมาเห็นเมียแต่งงานใหม่กับชายอื่นแล้วยังด่าเขาเสียไม่มีดี จึงโกรธจัดตัดขาดความสัมพันธ์ฉันผัวเมีย ทิ้งให้นางวันทองอยู่กับขุนช้าง และพานางลาวทองเดินทางไปอยู่กาญจนบุรี

หมดแล้วคนที่จะปกป้อง…นางวันทองเสียท่าถูกขุนช้างปลุกปล้ำในที่สุด แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเมียแต่เธอไม่รู้สึกรักขุนช้างเลยสักนิด กลับเกลียดเขาเข้ากระดูกดำมากยิ่งขึ้น

วันคืนผ่านไป…พร้อมจิตใจคนที่เปลี่ยนแปลง เมื่ออยู่ร่วมชายคาเดียวกันทุกวัน นางวันทองได้เห็นความรักที่ขุนช้างมอบให้ เขาไม่เคยทอดทิ้งเธอเหมือนขุนแผน แม้จะไม่รักแต่เธอค่อยๆ เปิดใจและสำนึกตัวได้ว่าเป็นเมียขุนช้างแล้ว

เรื่องน่าจะจบลงแค่นี้ ถ้าขุนช้างไม่ใส่ร้ายขุนแผนจนพระพันวษาที่เป็นกษัตริย์ในขณะนั้นกริ้วขุนแผนจนมีคำสั่งลงโทษให้พานางลาวทองเข้าวัง ด้วยความแค้นใจขุนแผนแอบขึ้นเรือนขุนช้างและใช้มนต์สะกดพานางวันทองหนีไป เขาโอ้โลมปฏิโลมจนนางวันทองใจอ่อนยอมคืนดีด้วย


เรื่องไม่จบ เมื่อเหตุการณ์ทำให้ขุนแผนติดคุกอีกครั้ง เพราะเขาทูลขอให้พระพันวษาปล่อยตัวนางลาวทอง จึงเป็นโอกาสให้ขุนช้างมาพาตัวนางวันทองกลับไปอยู่ด้วยอีก

เมื่อกลับไปอยู่กับขุนช้างนั้นนางวันทองกำลังตั้งท้องอ่อนๆ อยู่ด้วย เมื่อเธอคลอด “พลายงาม” ออกมา เขาโตขึ้นมีหน้าตาเหมือนขุนแผนราวกับพิมพ์เดียวกัน ขุนช้างรู้แน่ว่าตนไม่ใช่พ่อจึงหาทางฆ่า แต่พลายงามรู้ตัวก่อนจึงหนีรอดไปได้

จนเวลาผ่านไปนานหลายสิบปี พลายงามจึงกลับมาอีกครั้งเพื่อพาแม่หนีไปอยู่กับพ่อ เมื่อขุนช้างรู้เรื่องจึงไปถวายฎีกาพระพันวษาเพื่อขอตัวนางวันทองคืน

นางวันทองถูกทิ้ง ถูกจับตัวกลับมา ถูกฉุดกลับไป จากผู้ชายที่คิดจะทำอะไรก็ได้จนกระทั่งถูกมองว่าเป็นผู้หญิงหลายใจ “เมื่ออยู่กับผัวก็เข้าข้างผัว เมื่ออยู่กับชู้ก็เข้าข้างชู้” นี่คือสิ่งที่คนทั่วไปคิด

ความจริงผู้ชายที่นางวันทองเคยรักคือขุนแผน แต่เขาไม่เคยรักใครได้นาน ขุนแผนมีหลายรัก…เป็นเพียงรักเร่ที่เห็นค่าของสิ่งนั้นในเวลาก่อนจะได้มาและในเวลาที่เสียไป

ส่วนขุนช้าง…รักจริงๆ แต่รักด้วยความอยากได้ ไม่ใช่ความอยากให้ แม้จะทำดีด้วยทุกอย่างก็อยู่บนพื้นฐานของความต้องการให้ตัวเองมีความสุข

ถ้านางวันทองจะรู้สึกลังเลคงเพราะเลือกไม่ถูกว่าใครที่รักเธอมากกว่ารักตัวเอง ดังนั้นนางวันทองจึงหวังว่าพระพันวษาจะตัดสินใจให้


แต่…พระพันวษาที่รำคาญมหากาพย์ความรักที่ยาวนานนี้เต็มทน รับสั่งให้นำนางวันทองไปฆ่าเสีย เพราะคิดว่าเป็นผู้หญิงสองใจอยู่ต่อไปก็เป็นเสนียดจัญไรแผ่นดิน

จบปัญหารักสามเส้าที่ผู้ชายมีสิทธิ์ช่วงชิง มีเมียหนึ่ง สอง สาม สี่…มีได้ไม่ผิด แต่ผู้หญิงกลับมีความผิด แม้จะ “ไม่เคย” วิ่งไปหา…แต่กลับถูกตราหน้าว่าสองใจ

#ขุนช้างขุนแผน
#นางวันทอง
#นางพิมพิลาไลย
#สนามอ่านเล่น


My id is Gangnam beauty

 

ID ของฉันคือดอกไม้พลาสติก
“ความคิดที่ไม่ดีของเธอต่างหากที่ต้องศัลยกรรม ไม่ใช่หน้าตา” เป็นประโยคบอกเล่าที่พระเอกพูดกับนางเอกในเรื่อง “My ID is Gangnam beauty”
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “คังมีแร” สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เธอกลายเป็นน้องใหม่ปี 1 หน้าตาสดใสจนใครต่อใครต้องเหลียวกลับมามองเป็นครั้งที่สอง ไม่มีใครรู้ความจริงว่าคังมีแรเคยหน้าตาไม่ดีมาก่อน แต่เพราะหน้าตาของเธอทำให้ถูกล้อเลียนและมีคนกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง คังมีแรจึงตัดสินใจทำศัลยกรรมและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย
คังมีแรแค่อยากหน้าตาธรรมดาเหมือนคนทั่วไป แต่เมื่อทำเสร็จแล้วกลับสวยจนคนต้องมองเหลียวหลัง แม้จะเป็นแบบนั้นแต่ในใจของเธอก็ยังรู้สึกไม่มั่นคงนัก ถ้าคนอื่นรู้ความจริงล่ะ…จะเป็นอย่างไร
 
คณะที่มีแรเรียนนั้นมีดาวคณะชื่อ “ซูอา” เธอเป็นคนสวยและมนุษยสัมพันธ์ดี เธอดูเหมาะสมกับ “คยองซอก” หนุ่มหล่อเบอร์ 1 ที่ทั้งเรียนเก่งและฐานะดีเช่นกัน แม้จะเป็นแบบนั้นแต่คยองซอกไม่เคยสนใจใคร อาจเพราะเขามีพ่อที่ทำงานหนักจนไม่ค่อยมีเวลาให้ ส่วนแม่ก็ทิ้งเขาไปตั้งแต่ยังเด็ก คยองซอกจึงกลายเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงลิบลิ่ว
คยองซองรู้ว่าตัวเองหน้าตาดี แต่เขาไม่เคยทำตัวเด่นหรือรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าใคร สิ่งที่ทำให้คยองซอกดูดีไม่ใช่แค่ความหล่อเหลาแต่คือความคิดและบุคลิกที่เขาเป็นจริงๆ
คยองซอกยอมเปิดใจให้มีแรเป็นเพื่อน เพราะเธอกลายเป็นคนที่เข้ามาเป็นกาวใจให้เขาและแม่ปรับความเข้าใจกัน คยองซอกเฝ้าดูคังมีแรอยู่ห่างๆ เขาสนใจเธออยู่ห่างๆ
เพราะตอนนี้มีแรกลายเป็นคนหน้าตาดีที่มีแต่คนสนใจ แต่…การที่คนเข้ามาชอบเราเพราะหน้าตาไม่ใช่เรื่องโชคดี เมื่อมีรุ่นพี่มาจีบแต่คังมีแรปฎิเสธ เขาจึงหยิบเรื่องที่เธอทำศัลยกรรมขึ้นมาพูด โดยคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังคือซูอา
…มีแรไม่อยากเชื่อ เธอมองไม่เห็นเหตุผลที่ซูอาจะทำแบบนั้น
แต่ซูอาทำ…คนสวยแบบซูอาไม่เข้าใจความเจ็บปวดที่คนอื่นได้รับ เธอมองว่าตัวเองใช้ความพยายามเหมือนกันกว่าจะผอมและสวย เมื่อลำบากขนาดนั้นแล้วทำไมมีแรถึงยังเด่นกว่าเธอ
เรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็นคยองซอกเข้ามาปกป้องมีแรทุกครั้งที่มีปัญหา เขาขึ้นชื่อว่าเย็นชาและไม่สนใจใครแต่กลับเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเธอเสมอ
…แม้คยองซอกจะชัดเจน แต่มีแรไม่เคยมั่นใจ
 
ในความเป็นจริงไม่ว่าใครก็สามารถทำศัลยกรรมได้ถ้ามีเงิน แต่เราไม่สามารถศัลยกรรมจิตใจได้เลยถ้าหากขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง
“ความคิดที่ไม่ดีของเธอต่างหากที่ต้องศัลยกรรม ไม่ใช่หน้าตา” คยองซอกพูดออกมาเมื่อมีแรเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
สิบปี ยี่สิบปี หน้าตาที่เคยดีก็ต้องเปลี่ยนไป แม้ความสวยหล่อจะเป็นสิ่งแรกที่คนมองเห็น แต่นั่นไม่ใช่เครื่องรับประกันความสุขที่แท้จริง ไม่อย่างนั้นเราคงไม่เห็นคนหน้าตาดีอกหัก และคนหน้าตาธรรมดาสมหวังในความรัก
ความจริงคือ…ในหลายล้านคนบนโลกใบนี้มีคนที่ดูดีกว่าเราอยู่เสมอ แต่คนที่ชอบเรา “เขารู้” ว่าเราไม่ได้ดีที่สุด และถึงแม้เขาจะได้เจอคนที่ดูดีกว่า แต่เขายังคงรักและเลือกเรา “ที่เป็นเรา”
หาคนๆ นั้นให้เจอ…

สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก



“ตราบใดที่เรารักใครสักคนอย่างจริงใจ เราก็มีสิทธิ์ห่วงใยคนๆ นั้น”

วันแห่งความรักแบบนี้คิดถึงหนังไทยเรื่องหนึ่งที่เคยดูแล้วชอบมาก “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก” เป็นเรื่องราของ “พี่โชน” และ “น้องน้ำ” ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง น้ำเป็นเด็กสาวหน้าตาบ้านๆ ธรรมดาๆ ที่พยายามจะสวยเพื่อให้พี่โชนหันมามองเธอ


น้ำทำทุกอย่าง ทั้งขัดตัวให้ขาว ทำตัวให้สวย ไปเล่นละครเวที สมัครเป็นดรัมเมเยอร์ ทำให้ตัวเองดูน่าสนใจขึ้น

ผ่านไปหลายปีน้ำกลายเป็นคนสวยที่น่าชื่นชม แต่คนที่เข้ามาหาน้ำกลับเป็นเพื่อนของพี่โชนแทน ความผิดฝาผิดตัวนี้ทำให้เธออึดอัด

เหมือนจะไม่สมหวัง แต่เมื่อเราดูจนจบ ความรักของน้ำก็ไม่เคยผิดหวัง

 

ในสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก หนังทำให้คนดูสงสารน้ำที่แอบรัก และเปลี่ยนเป็นความซึ้งใจเมื่อรู้ถึง “รักที่ไม่แสดงออก” ของพี่โชนแทน

ดีงามเมื่อถ่ายทอดความรักของน้ำในช่วงต้น และบอกเล่าความรู้สึกของพี่โชนในช่วงปลาย ทุกอย่างคลี่คลายและทำให้เห็นแง่มุมสวยงามของความรัก ไม่ว่าจะเป็นรักที่แอบซ่อนหรือเปิดเผยใจออกมา


เราสามารถ “รักใครคนหนึ่ง” ได้เสมอ ไม่ว่าคนๆ นั้นจะรู้หรือไม่ ถ้าเราวาง “หัวใจ” ได้ถูกต้อง

ความรักไม่ได้จบลงเมื่อ “เขาไม่รัก”

เพราะรักคือสิ่งที่เกิดขึ้นในใจเราและดำเนินต่อไปในใจเรา

เหมือนพี่โชนที่สามารถรักน้ำได้อย่างเงียบเชียบและทำสิ่งดีๆ เพื่อเธอ

ตราบใดที่เรารักใครสักคนอย่างจริงใจ รักของเราจะไม่มีเงื่อนไข สิทธิ์ในการห่วงใยยังเป็นของเราเสมอ



#สุขสันต์วันวาเลนไทน์
#แอบรักรุ่นพี่
#แอบชอบรุ่นน้อง
#สนามอ่านเล่น


วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Yong Pal


ความสุขเกิดจากอะไร ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจบารมี หรือความพอดีในใจเรา เรื่อง "Yong Pal" ที่แปลเป็นภาษาไทยว่า "หมอเถื่อน" มีคำตอบให้คำถามนี้

"คิมแทฮยอน" พระเอกในเรื่องเป็นคนเก่งหาตัวจับยาก เขาเป็นหมอประจำบ้านปี 3 ในโรงพยาบาลฮันชินที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียง ถึงแม้จะมีพ่อติดเหล้า ไม่เคยดูแลครอบครัว มีแต่แม่ที่เลี้ยงเขากับน้องมาด้วยความยากลำบาก เขาก็ฝ่าฟันจนสอบเข้าหมอได้และเรียนจบ

แทฮยอนมีความฝันอยากให้แม่และน้องสบาย แต่วันหนึ่งแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุ ในวันนั้นไม่มีหมอคนไหนมาผ่าตัดให้ เพราะลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาล “ฮันยอจิน” ประสบอุบัติเหตุเช่นกัน หมอทุกคนจึงถูกเรียกตัวไปช่วยเธอ 


เมื่อไม่ได้ผ่าตัดแม่ของแทฮยอนจึงจากไป ความเสียใจทำให้เขาทุ่มเทชีวิตดูแลน้องสาวคนเดียวที่ป่วยเป็นโรคไต ร่างกายไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก เขากู้หนี้นอกระบบมารักษาน้องและส่งตัวเองเรียน เพื่อจ่ายหนี้เขารับงานผิดกฎหมายเป็นหมอเถื่อนรักษามาเฟีย มีฝีมือดีจนเป็นที่พูดถึง

การล้างไตต้องใช้เงินมาก แทฮยอนจึงหาเงินทุกทางที่ทำได้จนคนอื่นมองว่าเขาเห็นแก่เงิน แต่แทฮยอนไม่สนใจสิ่งที่คนอื่นคิด เขารู้ว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร

แล้วชีวิตของเขาก็เปลี่ยนเมื่อถูกย้ายไปอยู่ชั้นวีไอพีของโรงพยาบาล มีหน้าที่ดูแลร่างไร้สติของยอจินที่ถูกซ่อนไว้ที่นั่นด้วยฝีมือพี่ชายต่างแม่ที่หวังยึดครองอำนาจในโรงพยาบาลทั้งหมด


วันหนึ่งยอจินได้สติขึ้นมาและได้ยินเรื่องที่แทฮยอนต้องการเงินไปรักษาน้อง เธอจึงยื่นขอเสนอให้เขาช่วยพาเธอออกไปแลกกับเงิน


แทฮยอนตกลง เขาพายอจินหนีออกมาจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ ด้วยความที่เคยดูแลแม่และน้องมาตั้งแต่เด็ก เมื่อเจอผู้หญิงตกอยู่ในสภาพเดียวกัน เขาจึงเข้าใจและสงสารเธอมากจนความรู้สึกนั้นเปลี่ยนเป็นความรัก

เป็นเวลาเดียวกับที่ยอจินรู้ความจริงว่าพี่ชายของเธอเป็นคนสร้างเรื่องและวางแผนฆ่า ก่อนจะกลับไปเปิดเผยว่าตัวเธอยังมีชีวิตอยู่ ยอจินขอให้แทฮยอนจดทะเบียนสมรสด้วย

ไม่ใช่เพราะยอจินรวยและมีอำนาจ แต่เพราะรักแทฮยอนจึงแต่งงานกับเธอ แม้ความเป็นอยู่จะต่างกันลิบลับ เขาก็ยอมรับความอึดอัดกับชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม

ยอจินนั้นเป็นลูกคนรวยที่ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงเอาแต่ใจและเจ้าคิดเจ้าแค้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่ยอจินจะตามแก้แค้นทุกคนที่เคยทำร้ายเธอ


เมื่อแทฮยอนรู้เรื่องเขาขอร้องให้ยอจินหยุดและให้อภัยคนเหล่านั้น แต่ไม่มีทาง...ความทรมานที่ต้องนอนเป็นผักนาน 3 ปี แล้วยังชีวิตคู่หมั้นที่ต้องตายไปในอุบัติเหตุ ความเศร้าที่กัดกินใจมีแต่เธอเท่านั้นที่รู้…

ยอจินคิดแบบนั้น...แต่แทฮยอนรู้และเข้าใจเธอทุกอย่าง เขาเคยผ่านประสบการณ์สูญเสียแม่ สูญเสียศักดิ์ศรีเมื่อยอมละทิ้งตัวตนเพื่อเงิน เคยแค้นใจและโกรธเคืองเรื่องราวทุกสิ่งในชีวิต

แต่เมื่อคิดได้ มันไม่มีประโยชน์เลยที่จะทำร้ายคนอื่นให้เจ็บเหมือนกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่เคยโกรธและโทษยอจินว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แม่เขาตาย

เรื่องบางเรื่องไม่ต้องรื้อฟื้น เพียงปล่อยให้มันจบไปและเริ่มต้นใหม่

หากยอจินฉุกคิดสักนิดเธอจะเข้าใจว่าคนที่เธอโกรธแค้นนั้น เมื่อประเมินค่าออกมาแล้วพวกเขาไม่มีคุณค่ากับชีวิตเธอเลยสักนิด

ในวันที่ยอจินถูกวางยาจนยากจะรักษา เธอจึงเข้าใจว่าอำนาจที่ได้มาไม่มีความหมายเท่ากับเวลาที่เสียไป “เวลา” ที่เธอจะได้ใช้กับคนที่เธอรักและรักเธอ...อย่างมีความสุข

ความสุขไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อคนที่เราเกลียดเป็นทุกข์ แต่ความสุขเกิดขึ้นเมื่อใจเราเป็นสุข และจะเป็นแบบนั้นได้ก็ต่อเมื่อเราปล่อยวางและให้อภัย



#ยงพัล
#Yongpal
#สนุกและดีงาม
#สนามอ่านเล่น


วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Train to Busan



"โลกที่เราอยู่...คือโลกที่เราสร้าง"

วันนี้ในกรุงเทพและต่างจังหวัดหลายๆ แห่งยังคงผจญกับภาวะฝุ่น PM 2.5 หนาแน่น อากาศที่หายใจเข้าไปเป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะคนที่เป็นภูมิแพ้ เด็ก และผู้สูงอายุ ทุกคนตื่นตัวกันมากขึ้นเมื่อสื่อเริ่มพูดถึงอันตรายของฝุ่นละอองที่แพร่กระจายอยู่ทั่วไป ทำให้หน้ากาก N95 ขาดตลาดอย่างรวดเร็วและมีราคาสูงขึ้น

เหตุการณ์แบบนี้ทำให้คิดถึงหนังเกาหลีเรื่องหนึ่งที่เคยดูในโรงเมื่อ 2 ปีก่อน “Train to Busan” จำได้ว่าเป็นหนังที่สนุกและดีงามมากเรื่องหนึ่ง

เรื่องราวในหนังไม่ได้เกี่ยวกับภัยธรรมชาติ แต่พูดถึงการทดลองที่ผิดพลาดของบริษัทแห่งหนึ่งที่ทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายจากสัตว์สู่คน ความน่ากลัวคือผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้จะตายและกลายเป็นผีดิบ

ตัวเอกของเรื่องคือ “ซอกวู” ผู้จัดการกองทุนในบริษัทใหญ่ที่มีหน้าที่การงานดี ดูประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ชีวิตครอบครัวของเขากลับตรงกันข้าม เขาหย่าขาดกับภรรยาแล้วและกำลังพา “ซูอัน” ลูกสาวคนเดียวขึ้นรถไฟไปหาแม่ของเธอที่ปูซาน

ซูอันไม่อยากอยู่กับพ่อที่ไม่มีเวลาให้ เธอเคยได้ยินคนพูดถึงพ่อว่าเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเงิน จะเถียงก็ไม่ได้เพราะในความเป็นจริงซอกวูก็ทำตัวแบบนั้น

นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ซูอันอยากกลับไปหาแม่ แต่ก่อนจะถึงปูซานก็เกิดเรื่องน่ากลัวขึ้น เพราะเชื้อไวรัสระบาดหนัก มีผู้ติดเชื้อหนีขึ้นมาบนรถไฟและกัดผู้โดยสารในขบวนเข้า ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มจากหนึ่งเป็นสอง สาม สี่… และมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุด


คนที่ถูกกัดแล้วจะเปลี่ยนสภาพเป็นผีดิบ จากเหยื่อกลายเป็นผู้ล่า สมกับชื่อหนังภาษาไทยว่า “ด่วนนรก ซอมบี้คลั่ง” วิ่งกันทั้งเรื่อง จำได้ว่าสนุกและลุ้นจนลืมหายใจในหลายๆ ฉาก

หนังทำได้ดีในการดึงอารมณ์คนดูให้ตื่นเต้นเป็นช่วงๆ และไม่ทิ้งความรู้สึกละเอียดอ่อนในการถ่ายทอดเรื่องราวความรักของพ่อที่มีต่อลูก ความรักระหว่างสามีภรรยา และมิตรภาพที่เพื่อนมีให้เพื่อน

และยังแสดงให้เห็นอีกด้านที่เห็นแก่ตัวของมนุษย์ในช่วงเวลาคับขันของชีวิต เมื่อเราวิ่งหนีความตาย ชีวิตของคนอื่นกลายเป็นสิ่งด้อยค่า เราเลือกรักษาสิ่งที่สำคัญของตนเองไว้ก่อนเสมอ นั่นคือชีวิตของเรา…และคนที่เรารัก

ตอนต้นเรื่อง ในขณะที่ทุกคนหนีผีดิบบนรถไฟ ซูอันยังมีน้ำใจแบ่งที่ให้คนแก่นั่งพัก ซอกวูเมื่อเห็นลูกทำแบบนั้น ด้วยความเป็นห่วงกลัวลูกจะลำบากเพราะช่วยคนอื่น เขาจึงสอนเธอว่า

“ซูอัน เวลาแบบนี้ไม่ต้องทำตัวเป็นเด็กดีนะลูก ตอนนี้ห่วงแค่ตัวเองก็พอแล้ว เข้าใจไหม”

ซูอันมองหน้าพ่อแล้วตอบว่า “เวลาอยู่บ้านหนูเห็นคุณย่าปวดเข่าบ่อยๆ”

ฟังคำตอบของซูอันแล้วเราก็พอจะรู้ว่าเธอเป็นเด็กเอื้ออาทรที่รู้จักคิดถึงจิตใจคนรอบข้าง เราจะทำอะไรเพื่อใครไม่ได้เลย ถ้าเราไม่เอาใจของเราไปใส่ในเหตุการณ์ของเขาและคิดว่า “ถ้าเราเป็นเขาหรือเป็นคนที่เรารักจะรู้สึกอย่างไร”

หน้ากาก N95 ที่ทุกคนต้องการมากตอนนี้ทำให้รู้ว่าของบ้านเราไม่มีราคากลาง สุดแล้วแต่ว่าใครจะตั้ง เราคนไทยมีหัวด้านการทำมาหากินและรักที่จะค้าขาย คนมีเงินซื้อได้ แต่คนยากจนไม่มีสตางค์พอจะซื้อ หรือบางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำไปถึงพิษภัยของฝุ่นที่มี

แต่เราก็ได้เห็นคนซื้อหน้ากากอนามัยมาแจกคนอื่น หลายเพจทำกิจกรรมแจกหน้ากากฟรี ร้านค้าบางร้านขายหน้ากาก N95 ในราคาถูกที่ดูราคาก็รู้ว่าไม่ได้หวังเอากำไร หลายหน่วยงานทำคลิปออกมาแนะนำวิธีป้องกันฝุ่น หรือแม้กระทั่งตรุษจีนที่ไม่มีการเผากระดาษเงินกระดาษทองเพื่อไหว้เจ้า

สถานการณ์ฝุ่นทำให้เรามองเห็นอะไรได้หลายอย่างเหลือเกิน แต่เห็นแล้วเราตอบตัวเองได้หรือไม่ว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดูแลหรือรังแกโลก

เพราะสุดท้ายแล้วเราจะปฏิเสธได้อย่างไรว่าตัวเราเองไม่ได้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสถานการณ์ฝุ่นพิษอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้

เรากำลังวิ่งหนีซอมบี้กันอุตลุด ในโลกที่เราเป็นคนสร้าง


#Train to Busan
#ฝุ่นPM2.5
#หน้ากากN95
#สนามอ่านเล่น

วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Nana - นานะ


“ไม่มีความรักไม่เหงาเท่าไม่มีเพื่อน”
พอพูดประโยคนี้แล้วคิดถึงหนังเรื่อง “Nana” และเพลงประกอบของเรื่อง “Endless story” ที่ขับร้องโดย “Yuna Ito” หนังเล่าถึงเรื่องราวของผู้หญิง 2 คนที่มีชื่อเดียวกัน แต่บุคลิกและนิสัยใจคอกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

นานะคนแรกเป็นสาวพังค์ เธอดูแมนและพึ่งพาได้มากกว่าผู้ชายบางคนเสียอีก ส่วนนานะคนที่สองเป็นสาวน้อยอ่อนหวาน น่ารักสดใส ความบังเอิญทำให้ทั้งคู่มาเจอและได้เช่าห้องพักอยู่ด้วยกันในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว ปัญหาชีวิตที่ทั้งคู่ได้พบทำให้พวกเธอมีโอกาสได้อยู่เคียงข้างคอยเป็นกำลังใจให้กันและกัน สิ่งต่างๆ เหล่านั้นทำให้เกิดมิตรภาพที่แสนงดงามขึ้น

จะว่าไปถ้าเปรียบเทียบการมีเพื่อนดีๆ สักคน ก็เหมือนเรามีผ้าห่มอุ่นไว้คลุมตัวในวันที่หนาวเหน็บ อย่างน้อยก็ยังมีใครคนหนึ่งที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างและรับฟังเราโดยไม่ตัดสิน

เพื่อนจะตักเตือนเมื่อเราทำผิด แต่คอยออกรับและแก้ตัวแทนเมื่อคนอื่นมาว่าเรา

มิตรภาพดีๆ เหล่านั้น คงมีวันใดวันหนึ่งที่ต้องแยกย้ายจากกันไป อยู่คนละแห่ง คนละเรื่องราว คนละความฝัน เพราะในที่สุดคงไม่มีใครสามารถอยู่เป็นเพื่อนใครได้ทั้งชีวิต ทุกคนล้วนมีทางเดินที่ต้องก้าวและมีเรื่องราวของชีวิตตัวเอง

แต่เรายังสามารถเก็บ “เพื่อนของเรา” ไว้ในใจได้เสมอ เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า แม้มองไม่เห็นแต่เราก็รู้ว่ายังคงมีตัวตนอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้ และเรายังมีช่วงเวลาดีๆ ไว้ให้คิดถึง

ในวันที่เราเหงาเพราะเพื่อนที่เคยมีแยกย้ายกันไป อย่าคิดว่าตัวเองอ้างว้างไม่มีใคร เพราะยังมีอีกหนึ่งคนที่คอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ ตลอดไป และไม่มีวันแยกจากไปไหน…

“ก็ใครเล่าจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเราได้เท่ากับตัวเราเอง”

#สนามอ่านเล่น
——————————————
ป.ล. เพลงเพราะมาก แต่โพสต์ไม่ได้เพราะติดลิขสิทธิ์ของ Sony สามารถเข้าไปฟังได้ใน Youtube ค่ะ อยากให้ฟังจริงๆ ^^
เพลง : Endless story - Yuna Ito
Credit Video : https://youtu.be/J22h64NZa7k