วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2562

สามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่ (4)


“ท่านจะตอบแทนข้าบ้างได้หรือไม่…”

ตอนแรกไม่คิดจะเขียนถึงคู่ของ “ตงหัวตี้จวิน-ป๋ายเฟิ่งจิ่ว” เพราะเรื่องราวคู่นี้ยังไม่จบ เดี๋ยวจะมีซีรีส์เรื่อง “สามชาติสามภพลิขิตเหนือเขนย” ออกมาต่อ น่าดูมาก อยากรู้ว่าจะสร้างเรื่องราวออกมาเป็นแบบไหน เนื้อหาในซีรีส์กับนิยายจะแตกต่างกันไหม คิดว่าจะรีวิวทีเดียวเลย แต่พูดถึงป่าท้อแล้วถ้าขาดคู่นี้ไปก็ยังไงอยู่

ในสามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่ “ป๋ายเฟิ่งจิ่ว” เป็นหลานสาวของป๋ายเฉียนแห่งชิงชิว ทั้งสองคนสนิทกันมาก เฟิ่งจิ่วชอบมาขลุกอยู่กับป๋ายเฉียนตั้งแต่เด็กๆ เธอรักและเคารพอาสาวมาก

วันหนึ่งระหว่างเดินทางมาหาป๋ายเฉียน เฟิ่งจิ่วเกือบถูกสิงโตเพลิงทำร้าย แต่ “ตงหัวตี้จวิน” ผ่านมาพอดีจึงช่วยไว้ทัน ตงหัวตี้จวินนั้นเป็นมหาเทพ เคยเป็นประมุขของเทพทั้งปวง อาวุโสมากที่สุดแล้วในสวรรค์ ขนาดที่เง็กเซียนฮ่องเต้ยังต้องเกรงใจ แต่ตอนนี้เขาวางมือจากทุกสิ่ง หันมาใช้ชีวิตอย่างสันโดษ

เฟิ่งจิ่วได้เจอตงหัวตี้จวินครั้งนี้นับว่าโชคดีมาก เธอประทับใจในตัวเขา ส่วนตงหัวตี้จวินนั้นไม่ได้คิดอะไรกับเฟิ่งจิ่วเลยสักนิด มองเธอเป็นเด็กคนหนึ่งที่คอยตามเขาต้อยๆ

เฟิ่งจิ่วพยายามหาทางเข้าใกล้ตงหัวตี้จวิน โดยมีข้ออ้างคือต้องการทดแทนบุญคุณ ยอมเข้าไปเป็นเด็กรับใช้ของเขา ขึ้นไปสร้างเรื่องบนสวรรค์ก็หลายครั้ง จนตงหัวตี้จวินต้องออกโรงช่วย สุดท้ายต้องบอกให้เธอกลับชิงชิว

ก็เฟิ่งจิ่วนี่แหละคือคนที่ปลอมเป็นซู่จิ่นเพื่อจะเอาโคมผนึกวิญญาณมาให้ป๋ายเฉียน จนเยี่ยหัวโกรธมาก ดีที่ได้ชื่อของตงหัวตี้จวินมาช่วยไว้

คงเป็นเพราะเฟิ่งจิ่วอายุยังน้อย ไม่มีประสบการณ์ชีวิตมากนัก ความรู้สึกของเธอจึงแสดงออกมาอย่างตรงไปตรงมา อาจพูดได้ว่าคนอย่างเฟิ่งจิ่วไม่มีเล่ห์เหลี่ยม เมื่อรักใครก็ออกตัวเต็มที่ อย่างตอนที่งูปาเสอชอบพอกับองค์ชายรอง หรือตอนที่ซู่ซู่ขึ้นมาอยู่บนสวรรค์ เธอก็เป็นเดือนเป็นร้อนแทนป๋ายเฉียนทั้งสองครั้ง

แต่คนอย่างเฟิ่งจิ่วเช่นกัน ที่พอมาพบซู่ซู่ถูกรังแก ต้องอยู่คนเดียวทั้งๆ ที่ท้องแก่ เธอก็สงสารจนแปลงร่างเป็นจิ้งจอกน้อยมาอยู่เป็นเพื่อนด้วยบ่อยๆ แสดงว่าเฟิ่งจิ่วเป็นคนจิตใจดี ไม่ชอบเห็นคนที่อ่อนแอกว่าตัวเองลำบาก

เพราะแบบนี้จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเมื่อเฟิ่งจิ่วเอาตัวมาอยู่ใกล้ตงหัวตี้จวินบ่อยๆ เขาถึงมีความรู้สึกผูกพันกับเธอ แต่ถึงแม้เฟิ่งจิ่วจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่าชอบเขา ตงหัวตี้จวินก็ยังบอกกับทุกคนว่าเขาไม่ได้คิดอะไร

คนเราควบคุมคำพูดได้ แต่ควบคุมการกระทำไม่ได้ง่ายนัก เมื่อมีอันตรายตงหัวตี้จวินเป็นห่วงเป็นใยเฟิ่งจิ่วทุกครั้ง จะว่าไปทั้งคู่มีนิสัยเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือเมื่อคิดว่าใครเป็นคนของตัวเองก็จะออกหน้าปกป้องเต็มที่


ตงหัวตี้จวินคิดว่าเขาทำให้เฟิ่งจิ่วเสียใจ จึงวางแผนจะลงไปเกิดเป็นมนุษย์เพื่อใช้คืนหนี้รักให้แก่เฟิ่งจิ่ว อย่างน้อยก็ทำให้เธอสมหวังในความรักสักครั้ง

บอกว่าชดใช้ แต่ความจริงลึกๆ เป็นการทำตามความรู้สึกในใจของตัวเองมากกว่า ตงหัวตี้จวินปากแข็งเต็มที่ สมกับที่ทุกคนสงสัยว่าเขาเกิดมาจากก้อนหิน

เรื่องระหว่างตงหัวตี้จวินและเฟิ่งจิ่วบนโลกมนุษย์ทำให้เกิดความรักลึกซึ้งขึ้นในใจของทั้งคู่ ตงหัวตี้จวินหวั่นไหวแต่เขาก็ยังไม่ละทิ้งความตั้งใจเดิมของตัวเอง

ต่อมาเฟิ่งจิ่วรู้ความจริงว่าในอดีตสมัยที่ตงหัวตี้จวินเป็นประมุขเทพนั้น เขาได้ลบชื่อตัวเองออกจากหินสามชาติเพื่อตัดภาระทางใจ ไม่ให้ตัวเองมีบุพเพสันนิวาสกับใคร

เฟิ่งจิ่วเสียใจมาก เธอเหมือนคนโง่ รักคนที่ไม่คิดจะรักเธอ งั้นถ้าตงหัวตี้จวินลบได้ เธอก็จะเขียนใหม่ เฟิ่งจิ่วตัดหางตัวเองเพื่อทำเป็นมีด (หางของจิ้งจอกเก้าหางสามารถทำอาวุธวิเศษได้) แล้วสลักชื่อของตัวเองและตงหัวตี้จวินลงในหินสามชาติอีกครั้ง

แต่หินสามชาติไม่ใช่ของเด็กเล่นให้ใครต่อใครมาสลักชื่อเพิ่มกันได้ง่ายๆ นอกจากจะไม่สำเร็จแล้ว การตัดหางของตัวเองครั้งนี้ทำให้เฟิ่งจิ่วเกือบตาย ตงหัวตี้จวินมาหาเธอ เฟิ่งจิวที่กำลังบาดเจ็บสาหัสเพ้อถามเขาว่า

“เพื่อท่านแล้ว ข้ายอมตัดกระทั่งหางของตัวเอง ในความฝันนี้..ท่านจะตอบแทนข้าบ้างได้หรือไม่”


เด็กหนอเด็ก...ใครเขาทำแบบนี้เพื่อขอความรักจากผู้อื่นกันเล่า

ตงหัวตี้จวินทั้งรักและสงสารเฟิ่งจิ่ว เพียงแต่เขามีสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว อายุก็ล่วงเลยเห็นโลกมามากต่อมาก เฟิ่งจิ่วยังมีอนาคตอีกยาวไกล ตงหัวตี้จวินไม่อยากให้เธอมายึดติดกับเขา

ในความรักของทั้งคู่ เฟิ่งจิ่วทำให้เห็นแล้วว่าอายุไม่ใช่อุปสรรค คนจะรักยังไงก็รัก อายุเป็นแค่ตัวเลขไว้บวกลบคูณหารเท่านั้น

แต่อุปสรรคจริงๆ ของความรักคือเป้าหมายและทัศนคติในการใช้ชีวิตที่แตกต่าง ตงหัวตี้จวินเมื่อตัดสินใจลบชื่อตัวเองออกจากหินสามชาติแล้ว ก็ถือเป็นการลบบุพเพของตัวเขา

เป้าหมายในตอนนี้ของตงหัวตี้จวินไม่ใช่เฟิ่งจิ่ว ตรงกันข้าม เป้าหมายของเฟิ่งจิ่วคือเขา

ความรักที่ไปได้ตลอดรอดฝั่งก็เหมือนวงกลมวงเดียวที่มีคนวาดสองคน เส้นที่มาบรรจบกันมีเป้าหมายที่วางไว้คือคนที่เรารัก ทำทุกอย่าง ทำทุกทางเพื่อให้ได้อยู่ด้วยกัน

วงกลมของเฟิ่งจิ่วในวันนี้บิดเบี้ยวและวาดได้เพียงครึ่ง

“อะไรที่ควรพูดข้าก็พูดไปหมดแล้ว ตอนนี้พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ถอนใจเท่านั้น” ป๋ายเฉียนพูดกับเฟิ่งจิ่วในวันที่เห็นหลานตัวเองเจ็บปวดเพราะรักคนที่ไม่ควรรัก

แต่สำหรับเฟิ่งจิว ถ้ามันตัดใจกันได้ง่ายๆ มันก็คงไม่ใช่ความรัก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น